คุยกับ “คุณโอฬาร จันทร์ภู่ “ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์โฮม จำกัด


ในวันที่เศรษฐกิจเปลี่ยนแปลง สังคมเปลี่ยน…คนอยากจะสร้างบ้านต้องเตรียมตัวอย่างไร เมื่ออยากสร้างบ้านต้องเริ่มอย่างไร



ในอดีตถ้าคิดจะสร้างบ้าน ต้องหาสถาปนิก วิศวกร มาช่วยออกแบบบ้านก่อน คนสร้างบ้านส่วนใหญ่มักจะจะพบกับปัญหาของการออกแบบ คือไม่แน่ใจว่าความต้องการของพวกเขาที่ถูกถ่ายทอดมาเป็นแบบแปลนบ้านมีขนาดและรูปแบบเหมาะสมหรือเปล่า ที่สำคัญฟังก์ชั่นต่างๆใช้สอยได้จริงไหม ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของสถาปนิก วิศวกรที่เป็นผู้ออกแบบ และทำให้เป็นกังวลกับแบบแปลนว่าออกแบบมาแล้วจะก่อสร้างได้ตามแบบหรือเปล่า เมื่อได้แบบบ้านแล้วก็ต้องค้นหาผู้รับเหมาฝีมือดีอีก พอได้ผู้รับเหมามาสร้างบ้านแล้ว ต้องเป็นกังวลกับคุณภาพงานก่อสร้าง รวมไปถึงระหว่างการก่อสร้างหากมีการเปลี่ยนแปลงแบบหรือรูปแบบการก่อสร้าง จะไว้ใจผู้รับเหมาได้หรือไม่ หรือจะหาวิศวกร สถาปนิก ที่ไหนมาช่วย กว่าจะสร้างบ้านและได้บ้านที่ถูกใจสักหลังมีขั้นตอนและความยุ่งยากมากมาย

ทำให้การสร้างบ้านเป็นเรื่องง่าย ง่าย


เนื่องจากการออกแบบสร้างบ้านมีขั้นตอนและผู้เกี่ยวข้องมากมาย ในปัจจุบันถ้าคิดจะสร้างบ้าน ต้องคิดถึงบริษัทรับสร้างบ้าน ที่ให้บริการในขั้นตอนต่างๆอย่างครบถ้วนเพื่อลดภาระของผู้บริโภค บริษัทรับสร้างบ้านซึ่งเป็นองค์กรที่เป็นนิติบุคคลมีความน่าเชื่อถือ ให้บริการตั้งแต่ออกแบบ เขียนแบบ ขออนุญาตก่อสร้าง ทำการก่อสร้างตามสัญญา มีการรับประกันคุณภาพงาน แถมยังขอสินเชื่อจากธนาคารได้เกิน 100% อีกด้วย เรียกได้ว่ามาที่เดียวจบ เป็น Total Solution สำหรับการสร้างบ้าน แต่ในการพิจารณาเลือกบริษัทรับสร้างบ้านควรจะมีขั้นตอนดังนี้


มีที่ตั้งขององค์กร การเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน สถานที่ตั้งของบริษัทหรือสำนักงานถือเป็นเรื่องที่ต้องการพิจารณาในอันดับต้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าบริษัทรับสร้างบ้านนั้นมีที่ตั้งอยู่จริงหากเกิดปัญหาในการให้บริการหรือปัญหางานก่อสร้างไม่ได้คุณภาพ จะได้สามารถเข้าไปพูดคุยหรือติดต่อกับเจ้าหน้าที่หรือผู้บริหารได้อย่างสะดวก


มีผลงาน บริษัทรับสร้างบ้านที่น่าเชื่อถือต้องมีผลงานที่สามารถตรวจสอบ และเปิดเผยให้เข้าไปเยี่ยมชมผลงานได้ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจ และได้เห็นของจริงมากกว่าการดูโมเดลหรือรูปภาพเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าใหม่ยังสามารถสอบถามหรือปรึกษากับลูกค้าเดิมที่สร้างบ้านไปแล้ว เพื่อขอคำแนะนำได้ว่าที่ผ่านมาการก่อสร้างของบริษัทมีปัญหาด้านใดหรือให้บริการดีอย่างไร เพื่อเป็นการตรวจสอบความมั่นใจอีกครั้งหนึ่งด้วย
 
 
มีสถาปนิกประจำองค์กร บริษัทรับสร้างบ้านที่ได้มาตรฐานควรมีสถาปนิกประจำในองค์กรนั้นๆ เพื่อสามารถบริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง สามารถปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขแบบตามที่ลูกค้าต้องการได้ ซึ่งในปัจจุบันบริษัทรับสร้างบ้านหลายๆ บริษัทจะมีสถาปนิกซึ่งจะทำหน้าที่ดูแลลูกค้าตั้งแต่การออกแบบ ดูแลลูกค้าและประสานงานระหว่างก่อสร้าง หรือควบคุมการก่อสร้างรวมถึงให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเลือกวัสดุก่อสร้าง การเลือกใช้โทนสี การตกแต่งภายใน และคำแนะนำในด้านต่างๆ กับลูกค้ากระทั่งส่งมอบบ้าน
 
 

มีวิศวกรประจำองค์กร เมื่อมีผู้ออกแบบแล้วการสร้างบ้านที่ต้องการความมั่นคงแข็งแรงและโครงสร้างมีอายุการใช้งานที่ยาวนานคุ้มค่ากับเงินลงทุน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีวิศวกรเป็นผู้ออกแบบ คำนวณโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก และควบคุมขั้นตอนงานก่อสร้างด้วย เพื่อให้การก่อสร้างได้มาตรฐานตามที่กำหนด ทั้งนี้ตามกฎหมายนั้นวิศวกรถือเป็นวิชาชีพควบคุม ซึ่งผู้ที่จะประกอบอาชีพจะต้องได้รับอนุญาตให้ประกอบอาชีพโดยมีสภาวิศวกร จะเป็นกำกับดูแลและเป็นผู้ออกบัตรให้ ซึ่งหากเกิดปัญหาขึ้นมาก็จะมีกฎหมายมารองรับอย่างชัดเจนสามารถหาผู้รับผิดชอบได้ ขณะที่บ้านที่ก่อสร้างโดยไม่มีวิศวกรออกแบบคำนวณโครงสร้างหากเกิดปัญหาขึ้นก็จะไม่มีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน ปัญหาก็จะมาอยู่กับเจ้าของบ้านเพียงฝ่ายเดียว ที่สำคัญหากเป็นวิศวกรที่อยู่ในบริษัทเดียวกับสถาปนิกออกแบบ จะช่วยลดปัญหาเรื่องแบบก่อสร้างได้มาก

มีบริการหลังการขาย ปัจจุบันการให้บริการหลังการขายเป็นเรื่องที่สำคัญ เรื่องของบ้านก็เช่นกันเพราะหลังจากการสร้างเสร็จไปแล้วบริษัทรับสร้างบ้านที่ดีจะต้องมีบริการดูแลบำรุงรักษาหรือซ่อมบำรุงหากตรวจสอบพบข้อบกพร่องเล็กๆน้อยๆ ของงานก่อสร้างที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง ซึ่งจะต้องมีทีมงานเข้าไปแก้ปัญหาให้

มีการรับประกันคุณภาพ บ้านที่สร้างอย่างมีคุณภาพ บริษัทรับสร้างบ้านจะต้องมีการรับประกัน ทั้งในส่วนของการรับประกันงานก่อสร้าง และงานโครงสร้างของบ้าน เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจบ้านที่ออกแบบโดยสถาปนิก วิศวกร และควบคุมงานอย่างถูกต้องขั้นตอนโดยวิศวกร มักจะมีการรับประกันคุณภาพอยู่แล้ว เช่น รับประกันงานก่อสร้าง 1 ปี รับประกันโครงสร้าง 10 ปี เป็นต้น ขณะที่บ้านที่สร้างโดยผู้รับเหมาทั่วไปจะไม่มีการรับประกันใดๆ หากเกิดปัญหาก็ไม่สามารถเรียกร้องจากผู้รับเหมาหรือช่างที่ควบคุมงานได้

มีบริการเสริมพิเศษ การก่อสร้างบ้านนอกจากตัวบ้านแล้ว ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย อาทิ การขออนุญาตก่อสร้าง การขอใช้น้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ เลขที่บ้าน จากหน่วยงานภาครัฐ การติดต่อขอใช้สินเชื่อจากสถาบันการเงิน การให้คำปรึกษาและจัดหาบริษัทตกแต่งภายใน การจัดหาบริษัทรับตกแต่งสวน การจัดหาบริษัททำสระว่ายน้ำ การหาคนที่จะมาถมดินหรือมารื้อบ้านเก่าฯลฯ  ซึ่งบริษัทรับสร้างบ้านที่มีความพร้อมจะมีบริการดังกล่าวให้กับลูกค้าด้วยเพื่อความสะดวก รวดเร็ว

การออกแบบบ้านให้เหมาะสม

 
 
ในการสร้างบ้านสักหลังบนที่ดินของตนเอง การออกแบบบ้านให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากการออกแบบบ้านที่เหมาะสม จะทำให้เราได้บ้านที่ตรงพฤติกรรมการใช้ชีวิตของทุกคนในครอบครัว ได้บ้านที่อยู่แล้วสบาย ควบคุมงบประมาณก่อสร้างไม่ให้บานปลาย รวมถึงได้บ้านที่สร้างความสุขให้ทุกคนในครอบครัว ไม่ต้องมาต่อเติมหรือปรับปรุงอีกภายหลัง แนวทางในการเลือกแบบบ้านให้เหมาะสมควรพิจารณาดังนี้
 

เหมาะกับงบประมาณ

 
 
โดยปกติการที่จะเตรียมตัวในการสร้างบ้านนั้น ทุกคนจะมีงบประมาณเบื้องต้นในการสร้างบ้านอยู่แล้ว ดังนั้นในการจะออกแบบบ้านให้เหมาะสมจึงต้องพิจารณาให้สัมพันธ์กับขนาดของบ้านและรายการวัสดุที่จะใช้ เพราะจะทำให้เราได้บ้านที่ตรงกับงบประมาณที่เราตั้งไว้ไม่บานปลาย โดยในปัจจุบันราคาบ้านในระดับรายการวัสดุที่ไม่สูงจะมีราคาค่าก่อสร้างโดยประมาณ 15,000-20,000 บาทต่อตารางเมตร บ้านในรายการวัสดุระดับปานกลางจะมีราคาค่าก่อสร้าง 20,000-30,000 บาทต่อตารางเมตร และระดับรายการวัสดุที่สูงอาจจะมีราคาค่าก่อสร้างมากกว่า 30,000 บาทต่อตารางเมตร ดังนั้นหากเรามีงบประมาณในการก่อสร้างบ้านเท่าไหร่ก็ลองเอามาหารราคาต่อตารางเมตร ตามระดับรายการวัสดุที่เราเลือกก็จะทำให้เรารู้ว่าเราควรออกแบบบ้านที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยเท่าไหร่ งบประมาณนี้ยังไม่รวมมูลค่าของที่ดินครับ

 เหมาะสมกับรูปร่าง ลักษณะ และขนาดของที่ดิน

 
 
ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่จะสร้างบ้านบนที่ดินตนเองจะมีการเตรียมที่ดินพร้อมไว้ก่อน ที่จะมีการออกแบบบ้านที่จะสร้างอยู่แล้ว ดังนั้นเราต้องพิจารณาว่ารูปทรงและลักษณะของที่ดินตามโฉนดของเรานั้นเป็นแบบใด เช่น เป็นที่ดินแนวลึก หน้ากว้างหรือรูปทรงคางหมู และออกแบบบ้านที่มีลักษณะแบบบ้านแนวลึก แนวกว้าง ให้เหมาะสมกันที่ดินที่เรามี เนื่องจากหากเราออกแบบบ้านที่ไม่เหมาะสมกับรูปร่างของที่ดินก็จะทำให้ต้องมีปรับแบบมาก ทำให้เสียรูปทรงและความสวยงามรวมถึงประโยชน์ใช้สอยของแบบบ้านนั้นๆ

การออกแบบบ้านให้เหมาะสมกับขนาดที่ดินนั้น การพิจารณาเบื้องต้นจะต้องออกแบบบ้านที่มีขนาดความกว้างและความยาวของบ้านให้มีระยะห่างจากเขตที่ดินโดยรอบทุกด้าน ต้องไม่ต่ำกว่า 2 เมตร ในกรณีที่เป็นบ้าน 2 ชั้น และหากเป็นบ้านที่มีความสูงมากว่า 3 ชั้น จะต้องมีระยะห่างจากเขตที่ดินโดยรอบทุกด้าน ซึ่งแต่ละด้านต้องไม่ต่ำกว่า 3 เมตรจึงจะเปิดช่องประตูหน้าต่างได้

เหมาะสมกับทิศทางแดด ทิศทางลมและสภาพแวดล้อมของที่ดิน

 
 
ทิศทางแดดและทิศทางลมก็เป็นสิ่งสำคัญในการที่จะออกแบบบ้านให้เหมาะสม เนื่องจากแบบบ้านที่เหมาะสมกับที่ดินจะต้องมีการวางตำแหน่งฟังก์ชั่นต่างๆ ให้เหมาะสมกับทิศทางแดดและทิศทางลม เช่นบางพื้นที่ต้องการได้แสงธรรมชาติและเปิดมุมมองที่โปร่งสู่พื้นที่ภายนอก บางพื้นที่ต้องการระเบียงพักผ่อนภายนอก แต่ไม่ต้องการให้พื้นที่มีความร้อนจากแสงอาทิตย์ ซึ่งจะไม่เหมาะกับทิศตะวันตกหรือทิศใต้ซึ่งจะมีแสงแดดและความร้อนกระทบโดยตรงกับผนังหรือช่องเปิด แต่บางพื้นที่ต้องการแสงแดดหรือความร้อนในการลดความชื้นอย่างเช่น ห้องน้ำ ดังนั้นการวางผังบ้านและเลือกแบบบ้านให้เหมาะสมกับทิศทางแดดและลมจะทำให้เราอยู่สบาย ที่สำคัญยังช่วยประหยัดการใช้พลังงานทำให้ลดค่าใช้จ่ายได้ด้วย

 เหมาะสมกับกฎหมายและกฎระเบียบของพื้นที่

 กฎหมายและกฎระเบียบก็เป็นส่วนสำคัญมากๆ ในการออกแบบบ้านเช่นกัน เพราะกฎหมายผังเมืองจะมีการกำหนดการใช้พื้นที่ต่างๆ ว่าสร้างอะไรไม่ได้ หรือสร้างได้ความสูงไม่เกินเท่าไหร่ มีพื้นที่ว่าอัตราส่วนเท่าไหร่หรือต้องมีระยะร่นปราศจากสิ่งปกคลุมเท่าไหร่ ดังนั้นการที่จะออกแบบบ้านให้เหมาะสมกับที่ดินนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบข้อจำกัดทางด้านกฎระเบียบของพื้นที่ให้ชัดเจน เพื่อจะได้ออกแบบได้เหมาะสมกับที่ดินแปลงนี้ ซึ่งโดยปกติสถาปนิกประจำบริษัทรับสร้างบ้านจะต้องช่วยแนะนำเบื้องต้น เพื่อให้เราออกแบบบ้านบ้านได้อย่างเหมาะสม และอีกประเด็นสำหรับการสร้างบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านต่างๆ ก็ต้องมีการตรวจสอบกฎระเบียบของแต่ละหมู่บ้านเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสูง ระยะร่น หรือแม้กระทั่งบางหมู่บ้านอาจจะควบคุมไปถึงลักษณะของหลังคาหรือสีหลังคา ดังนั้นก่อนจะออกแบบบ้านจึงต้องศึกษากฎระเบียบของพื้นที่ทางด้านผังเมือง และกฎระเบียบของหมู่บ้านให้ถี่ถ้วน เพื่อที่เราจะได้ออกแบบให้เหมาะสม ไม่มีปัญหาในเรื่องการขออนุญาตปลูกสร้างด้วย

เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกและพฤติกรรมการอยู่อาศัยของคนในครอบครัว

 
 
ประเด็นสุดท้ายที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเลือกแบบบ้านให้เหมาะสมก็คือ จำนวนสมาชิกและพฤติกรรมการอยู่อาศัยของคนในครอบครัว เนื่องจากแบบบ้านที่ตอบสนองการอยู่อาศัยทำให้ทุกคนอยู่แล้วสะดวกสบายมีความสุขร่วมกันของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ดังนั้นแบบบ้านที่เหมาะสมจะต้องตอบโจทย์พฤติกรรมการอยู่อาศัยให้ได้สำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว เริ่มตั้งแต่จำนวนห้องนอน ห้องน้ำ ที่จอดรถ พื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นห้องรับประทานอาหาร ห้องพักผ่อน และพื้นที่อื่นๆ ซึ่งต้องวิเคราะห์จากการดำเนินชีวิตของทุกๆ คน ในแต่ละวันมีกิจกรรมอะไรบ้าง บางครอบครัวอาจจะชอบทำอาหาร รับประทานอาหารร่วมกัน บางครอบครัวชอบดูหนังฟังเพลงร่วมกัน บางครอบครัวอาจจะชอบออกกำลังกาย บางครอบครัวมีเด็กเล็กจะต้องมีพื้นที่ทำการบ้านของลูกๆ และบางครอบครัวมีผู้สูงอายุ ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยที่ต้องออกแบบพิเศษอีกด้วย

แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ : สำหรับคนที่ต้องการจะสร้างบ้าน
 
 
สำหรับคนที่ต้องการจะสร้างบ้านคงพอจะได้แนวทางบ้างแล้ว นอกจากจะเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่มีคุณภาพมาออกแบบและสร้างบ้านให้เหมาะสมแล้ว ยังมีปัจจัยในการพิจารณาอีกบางประการที่อยากให้คนที่ต้องการจะสร้างบ้านเก็บเอาไว้เป็นแนวทางในการเลือกบริษัทที่จะมาออกแบบและสร้างบ้านให้เรา
 
 
สำหรับที่แอดวานซ์โฮม ใส่ใจทุกขั้นตอนของการออกแบบและสร้างบ้าน การออกแบบแปลนงานสถาปัตย์ ต้องสอดคล้องกับแบบงานโครงสร้าง แบบงานระบบไฟฟ้าและงานระบบประปา-สุขาภิบาล  

มีการออกแบบเผื่อช่องท่อสำหรับเดินท่องานประปา-สุขาภิบาล รวมถึงเผื่อช่องท่องานสายเมนไฟฟ้า เวลาก่อสร้างจะได้มากรีดผนังเพื่อเดินสาย ออกแบบให้จำนวนปลั๊กสวิสซ์ มีจำนวนเพียงพอกับการใช้งานจะได้ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มภายหลัง มีการใช้วัสดุตกแต่งผนังภายนอกให้สวยงามและเข้ากับตัวบ้าน ประตูหน้าต่างสูง 2.40 เมตร ฝ้าเพดานภายในสูง 2.70 เมตรทำให้บ้านดูโล่งโปร่งสบาย ในส่วนของงานโครงสร้าง เรามีการสำรวจพื้นที่และเจาะสำรวจดินทุกหลัง เพื่อจะได้รู้ความลึกของชั้นดินจริงจะได้ใช้มาออกแบบเสาเข็มได้ถูกต้องแม่นยำ นอกจากนี้เมื่อตอกหรือเจาะเสาเข็มเสร็จแล้ว ยังมีการทดสอบความสมบรูณ์ของเสาเข็มด้วยวิธี seisamic test เพื่อแน่ใจว่าเสาเข็มที่อยู่ใต้ดินและเป็นฐานรากของบ้าน สมบูรณ์แข็งแรงจริงๆ จากประสบการณ์การออกแบบและสร้างบ้านที่ได้เรียนรู้ข้อผิดพลาดเอามาพัฒนาอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดยั้ง เราออกแบบให้บ้านสไตล์โมเดิร์น ที่ไม่เหมาะกับสภาวะภูมิอากาศในประเทศไทย ให้แข็งแรง อยู่สบายและประหยัดค่าใช้จ่ายได้ พิสูจน์จากการที่แบบบ้าน Grace 08 ได้รับรางวัลดีเด่น ในการประกวดบ้านจัดสรรอนุรักษ์พลังงานดีเด่น ปี2559 จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน  กระทรวงพลังงาน
 
 
“สร้างบ้านแนวคิดใหม่” คือคอนเซ็ปต์ที่บ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์ของแอดวานซ์โฮม  ได้อย่างชัดเจนที่สุด เพราะออกแบบบ้านใหม่ทุกหลัง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด และยังเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นที่ดูทันสมัย ได้มุมมองใหม่ๆของบ้านแต่ละหลังที่ไม่เหมือนกัน แต่ฟังก์ชั่นใช้สอยลงตัวกับผู้ที่อาศัยทุกคนภายในบ้าน และรองรับกับสภาพอากาศของประเทศไทยได้อย่างกลมกลืน